ของผู้ชายมันเป็นอย่างนี้นี่เอง

ณรงค์ หนุ่มใหญ่วัย 35 ปี ขับรถกลับจากทำงาน ใจก็นึกถึงเรื่องราวต่างๆที่ผ่านมาในชีวิต กำลัง
ขับรถเพลินๆก็ต้องตกใจสุดขีด เพราะมีร่างของใครคนหนึ่งเดินเซเข้ามาหารถเขา ณรงค์เหยียบเบรคเต็มแรง
เสียงล้อรถบดลากไปกับถนนเสียงดังสนั่น หน้ารถปะทะกับร่างๆนั่นพร้อมๆกับที่รถเขาหยุดอยู่กับที่ ณรงค์
รีบเปิดประตูรถออกไปดูด้วยความตกใจ พอเดินไปที่หน้ารถก็พบกับเด็กสาวนอนฟุบไม่ได้สติ ใบหน้าขาว
ซีด

“หนู…หนู..เป็นไงบ้าง…”

ณรงค์เอามือเขย่า แต่เธอก็ยังนิ่งไม่ได้สติ เขาจึงรีบอุ้มเธอขึ้นรถเพื่อไปส่งโรงพยาบาล ณรงค์ขับรถไปก็มอง
ร่างของเด็กสาวไป กลัวเธอจะเป็นอะไรไป จนถึงโรงพยาบาลก็รีบพาเธอไปที่ห้องฉุกเฉินแล้วนั่งรออยู่หน้า
ห้อง เวลาผ่านไป 30 นาทีก็มีพยาบาลเดินมาหาณรงค์พร้อมกับถามเขาว่า

“คุณเป็นญาติของน้องที่ประสบอุบัตเหตุมาหรือเปล่าคะ…”

ณรงค์มองหน้าพยาบาลด้วยความลังเลนิดหนึ่ง

“คะ..ครับ..มีอะไรหรือครับ…”
“คือน้องเค้าไม่เป็นอะไรมากหรอกค่ะ…แค่ถลอกนิดหน่อย..แต่แกเป็นลมน่ะค่ะ..คงไม่ได้ทานข้าวกลาง
วัน… หมอกำลังให้น้ำเกลืออยู่ อีกซัก 2-3 ชั่วโมงก็กลับบ้านได้แล้วคะ…ถ้าคุณจะเข้าไปเยี่ยมก็เชิญคะ..”

แล้วพยาบาลก็เดินกลับเข้าไปทำงานต่อ ณรงค์จึงเดินเข้าไปดูเด็กสาวที่นอนให้น้ำเกลืออยู่ เมื่อเธอเห็นหน้า
ณรงค์เธอทำหน้างงๆ เพราะเธอไม่เคยเห็น ไม่เคยรู้จักเขามาก่อน

“เป็นอย่างไรบ้างหนู…พอดีหนูเป็นลมแล้วฉันขับรถมาชน…เป็นไงเจ็บมากไหม…หนูไม่ต้องเป็นห่วงนะ..
เดี๋ยวฉันดูแลค่ารักษาเธอเอง…”

เด็กสาวค่อยๆยกมือขึ้นไหว้ณรงค์

“สวัสดีคะ..คุณอา..”

เด็กสาวมองหน้าณรงค์แล้วตัดสินใจเรียกเขาว่าอา เพราะเธอคาดคะเนดูแล้วเขาน่าจะรุ่นๆเดียวกับแม่ ณรงค์
มองหน้าเด็กสาวแล้วรู้สึกสบายใจขึ้น ที่เธอเป็นเด็กที่มีมารยาท ไม่มีท่าทีหยิ่ง หรือโกรธเขา เขาจึงสอบถาม
เรื่องราวของเธอ ทีแรกเด็กสาวก็ไม่อยากจะบอกอะไร แต่เห็นท่าทางสุภาพ และเป็นผู้ใหญ่ของณรงค์ เธอจึง
เล่าให้ฟังว่า เธอชื่อ ‘สุชาดา’ ชื่อเล่นว่า ‘แพรว’ เรียนอยู่พานิชย์ปี 3 ทางบ้านค่อนข้างยากจน เธอบอกอีกว่า
เธอนั้นกำพร้าพ่อ แม่บอกกับเธอว่าพ่อเสียชีวิตไปตั้งแต่เธอยังอยู่ในท้อง แม่จึงเลี้ยงเธอมาตามลำพัง เธอ
สงสารแม่ที่ต้องทำงานลำบากส่งเสียเธอเรียน เธออยากจะช่วยแม่ประหยัด เธอจึงกินข้าวเพียงวันละ 2 มื้อ
ปกติเธอจะอดมื้อเย็น แต่วันนี้เธอลืมเอากระเป๋าตางค์มาเธอจึงไม่ได้กินข้าวเที่ยง พอณรงค์ได้ยินเด็กสาว
บอกด้วยใบหน้าที่เศร้าๆ น้ำตาซึม ทำให้เขาอดที่จะเศร้าตามเธอไปด้วย นึกสงสารในความอาภัพของเธอ

“อาขอโทษนะที่ขับรถไม่ได้ระวัง…แล้วหนูชื่ออะไรล่ะ…อาจะได้เรียกชื่อหนูถูก…ส่วนอาชื่อ..ณรงค์..เรียก
ว่าอารงค์ก็ได้..”

ณรงค์พยามยามเปลี่ยนเรื่องคุย เพื่อให้เธอสบายใจขึ้น

“หนูชื่อ..แพรว..ค่ะ..”

ณรงนั่งมองแพรวที่นอนหลับตาด้วยความเพลีย ใบหน้าเธอขาวซีด รูปร่างค่อนข้างผอม บาง เมื่อเทียบกับ
เด็กสาวรุ่นเดียวกัน เฮ่อ..นี่เธอคงจะยากจนอย่างที่เธอพูดจริงๆ.. เอ..เราก็ไม่มีพันธะอะไร ถ้าเราจะส่งเสีย
เธอได้เรียนหนังสือ คงจะดีกว่าเอาเงินไปเที่ยวเตร่นี่หว่า… ดูท่าทางจะเป็นเด็กดีเอามากๆเลยนะนี่… ณรงค์
นั่งคิดในใจ ช่วงที่นั่งรอเธอให้น้ำเกลือ จนเผลอหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้ มารู้สึกตัวก็ต่อเมื่อพยาบาลมาปลุก
เขาเพราะน้ำเกลือที่ให้เด็กสาวนั้นหมดแล้ว และจะต้องไปจ่ายค่ายา-ค่ารักษา เสร็จแล้วเขาก็มาพาเด็กสาวไป
ส่งบ้าน

“แพรว…อาว่าเราแวะทานข้าวก่อนดีกว่านะ…เพราะว่าแพรวยังไม่ได้ทานข้าวเลยไม่ใช่หรือ…อืมม.. เอา
ร้านนี้ก็แล้วกัน..ดูเป็นธรรมชาติดี..”

ณรงค์ชวนแพรวแวะทานข้าว ก่อนที่จะถึงบ้านเธอเล็กน้อย ซึ่งเป็นร้านอาหารที่เธอเดินผ่านแทบทุกวัน เธอ
อยากจะเข้าไปลองทานสักครั้งแต่ก็ไม่ปัญญา ได้แต่มอง ตลอดทางแพรวได้แต่นั่งฟังณรงค์พูดอยู่ฝ่ายเดียว
แพรวรู้สึกอบอุ่น และสบายใจที่ได้อยู่ใกล้ ถึงแม้จะเป็นครั้งแรกที่ได้พบกันก็ตาม คงจะเป็นบุคลิกของ
ณรงค์ก็ได้ที่เขาเป็นคนสุภาพ วางตัวดี ไม่มีท่าทีเจ้าชู้กับเธอ แพรวกินอาหารอย่างอร่อย ซึ่งเธอไม่เคยกิน
อาหารดีๆแบบนี้มาก่อน แต่เธอก็ไม่กล้ากินมาก เพราะเกรงใจณรงค์ แต่ณรงค์ก็มองออกว่าเธอยังไม่อิ่มนัก
เขาจึงสั่งใส่ห่ออีกหนึ่งชุดเพื่อให้เธอได้กลับไปกินที่บ้านให้อิ่ม ก่อนกลับณรงค์ก็ควักเงินส่งให้แพรวไว้ใช้อีก
2,000 บาท แต่แพรวไม่กล้ารับ ณรงค์จึงต้องบอกว่าเป็นเงินค่าทำขวัญที่เขาขับรถชนเธอจนได้รับบาดเจ็บ
แพรวจึงจำเป็นจะต้องรับไว้ หลังจากนั้นณรงค์ก็แวะมาเยี่ยมแพรวแทบทุกวันหลังจากเลิกงาน จนทั้งคู่มี
ความสนิทสนมมากขึ้น บางครั้งณรงค์ก็ไปรับแพรวที่โรงเรียนแล้วพาไปกินข้าวเย็นก่อนที่กลับบ้าน เสาร์-
อาทิตย์ไหนที่ณรงค์ว่างเขาก็จะไปรับแพรวออกไปซื้อข้าว-ของเครื่องใช้ เพราะรู้ว่าแพรวนั้นไม่มีเงิน อีก
อย่างเสื้อผ้าที่แพรวสวมใส่นั้นเขาไม่เคยเห็นเธอสวมชุดใหม่ๆเลยสักครั้งมีแต่ชุดเก่าๆ แต่เธอรักษาความ
สะอาดไว้อย่าดี ณรงค์จึงซื้อเสื้อผ้าให้ แต่กว่าแพรวจะรับสิ่งของที่ณรงค์ซื้อให้ ณรงค์ก็ต้องหว่านล้อม อ้าง
เหตุผลต่างๆ นาๆ จนในที่สุดณรงค์ก็ให้เหตุผลว่า

“แพรว…ของที่อาให้แพรวน่ะ…อาไม่ได้หวังสิ่งตอบแทนจากแพรวหรอก…อาสงสารแพรวและแม่แพรวที่
ต้องลำบาก อีกอย่างอาก็คิดว่าแพรวน่ะเป็นหลานของอาคนหนึ่ง..หรือว่าแพรวรังเกียจอา..”

แพรวยืนทำตาแดงๆ หน้าละห้อย

“ปล่าวคะ..แพรวไม่ได้รังเกียจอารงค์หรอกค่ะ…แต่แพรวเกรงใจอารงค์…ที่ผ่านมาอารงค์ก็ให้แพรวมามาก
แล้ว..”

ณรงค์เอาลูบหัวเธออย่างเอ็นดู

“เอาอย่างนี้…ถ้าแพรวเกรงใจอา..แพรวก็ทำงานบ้านให้อาแทนก็ได้…ไหวมั๊ย…”

แพรวแหงนหน้ามองณรงค์ แล้วยิ้ม

“ได้ค่ะ…แพรวไปทำงานบ้านให้อารงค์ก็ได้ค่ะ…แพรวทำได้ทุกอย่างเลยนะคะ..ซักผ้า หุงข้าว ทำกับข้าว
กวาดบ้าน ถูบ้าน.”

พอตกลงกันได้ก็ดูแพรวจะมีความสุขขึ้น ไม่ต้องอึดอัดกับสิ่งที่รับจากณรงค์ พอเช้าวันเสาร์วันอาทิตย์ณรงค์
ก็ไปรับแพรวมาที่บ้านโดยให้เธอเอาการบ้านมาทำที่บ้านเขาด้วย พอมืดๆณรงค์ก็ไปส่งแพรวที่บ้าน อาทิตย์
ไหนที่แพรวกลับไปเยี่ยมแม่ ณรงค์ก็ซื้อของฝากไปด้วยบางครั้งก็ฝากเงินไปให้แม่แพรว โดยที่แพรวบอก
กับแม่ว่าเธอทำงานพิเศษวันเสาร์อาทิตย์ จึงมีเงินซื้อของและเงินให้แม่ แล้วยังบอกอีกว่าต่อไปเธอเรียนจบ
เธอจะทำงานเลี้ยงแม่เอง ให้แม่อยู่บ้านเฉยๆ แม่เธอถึงกับน้ำตาซึม ดีใจกับความกตัญญูของเธอ แพรวทำ
งานบ้านให้ณรงค์ได้ 2-3 เดือน ณรงค์ก็ปรึกษากับแพรวว่า

“แพรว…อาว่าแพรวมาอยู่ที่บ้านอาดีกว่ามั๊ย…แพรวไม่ต้องไปเสียเงินค่าเช่า…บ้านอาก็มีตั้ง 3 ห้อง..แพรวว่า
ไงล่ะ..”

แพรวมองหน้าณรงค์ ครุ่นคิดสักพักจึงพูดกับณรงค์ว่า..

“ก็แล้วแต่อารงค์เถอะค่ะ…ก็ดีเหมือนกันแพรวจะได้ทำงานให้อารงค์ได้เต็มที่…”
“แพรว…ที่อาให้แพรวมาอยู่ที่บ้านอา..ไม่ใช่อาจะใช้งานแพรวหรอกนะ…อาอยากให้แพรวอยู่อย่างสบาย
ใจ…คิดเสียว่าแพรวเป็นหลานของอาคนหนึ่ง…ไม่ใช่คนรับใช้…อาอยากให้แพรวตั้งใจเรียนมากกว่า…ถ้า
ไม่ว่างก็ไม่ต้องทำหรอกงานบ้านน่ะ เอาไว้วันเสาร์-วันอาทิตย์เราค่อยมาช่วยกันทำจะดีกว่า..”

ณรงค์บอกกับแพรว ในที่สุดแพรวก็ย้ายเข้ามาอยู่บ้านเดียวกับณรงค์ ณรงค์นั้นรักและเอ็นดูแพรวเหมือนเธอ
เป็นลูกเป็นหลานเขาคนหนึ่ง ส่วนแพรวก็รักและเคารพณรงค์ แรกๆแพรวก็รู้สึกเคอะเขินอยู่บ้างที่มาอยู่กับ
ผู้ชายที่ไม่ได้เป็นญาติพี่น้องกันจริงๆ แต่การที่ได้อยู่บ้านเดียวกันทำให้ทั้งสองคนมีความสนิทสนม เป็นกัน
เองมากขึ้น มีการพูดจาหยอกล้อเป็นกันเอง แพรวมาอยู่ดีกินดีจากร่างกายที่ผอมแห้งก็มีน้ำมีนวลผิวพรรณ
แปล่งปลั่ง ดูเป็นสาวเต็มตัว ด้วยความที่ณรงค์รักและเอ็นดูแพรวมากจึงทำให้แพรวแอบปลื้มในตัวณรงค์
งานในบ้านแพรวจึงทำให้ณรงค์ทุกอย่าง เปรียบเหมือนเธอเป็นภรรยาของณรงค์เลย

“แพรว…ทำอะไรน่ะ…ไม่ต้อง..นั่นอาซักเอง..”

ณรงค์ร้องโวยวายขึ้นมาทันทีที่เห็นเธอนั่งซักกางเกงในเขาอยู่

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ…แพรวทำได้…อารงค์ทำงานก็เหนื่อยแล้ว…ไปพักผ่อนเถอะค่ะ..”

แพรวยืนยันที่จะซัก ทำให้ณรงค์ต้องเข้าไปชิงกางเกงในของเขามาซัก แต่…

“ไม่ต้องค่ะ…มันมีของแพรวอยู่ด้วย…แพรวซักเอง..” ทำให้มีการยื้อกันเกิดขึ้น
“เอาอย่างนี้…เรามาช่วยกันซักก็แล้วกัน…” ณรงค์ตัดสินใจนั่งลงช่วยแพรวซัก
“อุ๊ย..อารงค์นั่นของแพรว…”

แพรวยื่นมือมาทำท่าจะดึงกางเกงในตัวจิ๋วของเธอจามือณรงค์แต่ณรงค์กับชักมือหนีพร้อมกับยกโชว์ แกว่ง
ไปแกว่งมาอีกต่างหาก

“ทีของอา..แพรวยังซักได้เลย…แล้วอาจะซักของแพรวบ้างไม่ได้หรือไง…”

ว่าแล้วณรงค์ก็จัดการซักชุดชั้นในของแพรว แต่แพรวก็ยังห้ามเขาอีก เพราะเธออายที่ผู้ชายมาซักชุดชั้นใน
ของเธอ
“ไม่เอาอ่ะ..แพรวซักเอง..น่าเกลียด…”

แพรวบ่นอุบอิบๆหน้าแดง แต่ณรงค์ก็ยังคงซักต่อไป แล้วยังมีพูดกระเซ้าเย้าแหย่กับแพรวจนซักเสร็จ และ
ช่วยกันเอาไปตาก ณรงค์เห็นว่าเป็นวันหยุดก็เลยชวนแพรวออกไปกินข้าวนอกบ้าน และถือโอกาสไปเดิน
เที่ยวห้างฯด้วย ทำให้ทั้งคู่มีความสุขสดชื่นโดย หลังจากนั้นแพรวมีความรู้สึกกับณรงค์แปลกๆ และเปลี่ยน
ไปจากเดิม ความรักที่เธอมีให้กับณรงค์เริ่มเปลี่ยนจากอา-หลานมาเป็นแบบคนรักอย่างเงียบๆ โดยที่เธอก็
ไม่รู้ว่าสิ่งนั้นมันคือความรักที่หนุ่มสาวทั่วๆไปต่างก็แสวงหาเอามาครอบครอง แต่ตัวเธอนั้น เธอไม่เคยได้
คิดเลยเพราะฐานะทางบ้านที่รุมเร้าในใจเธอ แต่มันก็เกิดกับเธอจนได้ จนกระทั่งเย็นวันศุกร์วันหนึ่งหลัง
จากที่ณรงค์ไปรับแพรวกลับมาจากโรงเรียนณรงค์ก็บอกกับแพรวว่า เขาจะต้องไปงานเลี้ยงที่ทำงานซึ่งอาจ
จะกลับดึก ไม่ต้องรอกินข้าว ส่วนของแพรวนั้นณรงค์จัดการซื้อเตรียมไว้ให้แล้ว ก่อนจะออกไปยังหันมา
กำชับว่า

“ง่วงก็นอนไปเลยนะ..เดี๋ยวอาเอากุญแจไปด้วย…แพรวไม่ต้องรอเปิดประตูให้อา…”

แพรวได้แต่นั่งมองณรงค์ขับรถออกไป เธอรู้สึกเหงา ก็เลยหางานในบ้านทำไปเรื่อยๆเพื่อคลายเหงา หลัง
จากอาบน้ำใส่ชุดนอนแล้ว เธอก็ยังไม่นอนยังคงนั่งอ่านหนังสือรอณรงค์กลับมาด้วยความเป็นห่วง จนเกือบ
ตี1 เธอเห็นแสงไฟหน้ารถณรงค์สาดเข้ามาเธอจึงรีบเก็บหนังสือแล้วรีบเข้านอนทันที กลัวณรงค์จะดุเอาที่
มานั่งรอเขา ณรงค์กลับมาด้วยอาการที่เมาหนักพอสมควร แพรวได้ยินเสียงปิดประตูรั้วดังปึงปัง แล้วเปิด-
ปิดประตูบ้านดังกว่าทุกวัน เธอจึงแง้มประตูแอบดู เห็นณรงค์นอนแผ่หราบนโซฟา ถุงเท้าก็ไม่ยอมถอด
เสียงพึมพำๆเบาๆสักพักก็เงียบไป แพรวคิดว่าอารงค์คงจะเมาหลับไปแล้ว เธอจึงตั้งใจเข้าไปปรนนิบัติดูแล
พอแพรวเข้าไปใกล้ๆก็ได้กลิ่นเหล้าหึ่ง แพรวนั่งลงถอดถุงเท้าให้ณรงค์ เสร็จแล้วก็เอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดหน้า
เช็ดตาให้ พอโดนน้ำณรงค์ก็พอจะรู้สึกตัว แต่ตาลืมแทบไม่ขึ้น

“อ้าววว…แพรว…เหรออ…อา.มาวว..ปาย..หน่อย..ขอโทษที..”

พูดแล้วก็หลับตาไปอีก เขารู้สึกสบายตัวขึ้นมาบ้าง

“อารงค์คะ…เข้าไปนอนในห้องเถอะคะ…มา..แพรวช่วย…”

แพรวดึงณรงค์ให้ลุกขึ้นแล้วพาเขาเข้าไปนอนในห้องด้วยความทุลักทุเล

“อาคะ…ไม่อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนหรือคะ…เหม็นเหล้าหึ่งเลย…”

แพรวพยายามปลุกเขาให้ขึ้นมาอาบน้ำก่อน แต่ก็ไม่เป็นผล แพรวเลยตัดสินใจไปเอาน้ำใส่กะละมังกับผ้ามา
หนึ่งผืน เธอค่อยๆแกะกระดุมเสื้อออกอย่างช้าๆ ด้วยมือที่สั่นนิดๆ เพราะเป็นครั้งแรกที่เธอได้ทำแบบนี้กับ
ผู้ชาย เสร็จแล้วเธอก็เอาผ้าชุบน้ำเช็ดให้เขาจนทั่ว แล้วกลับมานั่งคิดว่าจะทำอย่างไรต่อ ก่อนที่จะตัดสินใจ
ถอดเสื้อณรงค์ออกแล้วไปหยิบเสื้อนอนมาสวมให้แทน ทีนี้ก็เหลือแต่กางเกง แพรวเอื้อมมือไปที่เข็มขัด
แล้วชักมือกลับ 2-3 ครั้ง แล้วก็หลับตาเอามือคลำๆไปที่เข็มขัดค่อยๆปลดไปมันออก ต่อจากนั้นก็ ปลด
ตะขอกางเกง รูดซิปลงไปจนสุด ใจก็อยากดูเธอจึงค่อยลืมตาอย่างช้าๆ เห็นกางเกงในของณรงค์ห่อหุ้มดุ้น
เอ็นนูนเป็นลำ ก่อนที่จะเธอจะใช้ความพยามยามถอดกางเกงได้ก็เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกันเพราะณรงค์นั้น
เมานอนทับนิ่ง พอกางเกงขายาวพ้นจากร่างกายชายหนุ่ม ทำให้แพรวใจเต้น สั่นระรัว ทำอะไรไม่ถูก สายตา
จ้องไปที่ดุ้นเอ็นที่ซ่อนอยู่ในกางเกงใน สักพักเธอจึงเอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดตั้งแต่สะเอวไล่ลงไปจนถึงเท้า แต่
สายตาก็ยังจ้องมองสิ่งนั้นอยู่ แพรวรู้สึกร้อนวูบวาบๆ ไปทั้งตัว จนต้องนั่งหนีบขาแน่น เธอนั่งมองจนแน่ใจ
ว่าณรงค์นั้นหลับไม่รู้สึกตัว ด้วยความอยากรู้บวกกับอารมณ์ในที่เกิดขึ้นเธอจึงยื่นมือไปลูบเบาๆที่ดุ้นเอ็น
ถึงแม้จะมีกางเกงในขวางกั้นอยู่ก็ตาม แต่ก็ทำให้สิ่งนั้นที่ไม่ค่อยได้ใช้งานมานาน ค่อยๆขยับขยายตัวขึ้น
มันดันตัวขึ้นมาจนปลายหัวบานเกือบพ้นขอบกางเกงใน

“อุ๊ย…”

แพรวอุทานออกมาเบาๆ ก่อนที่เธอจะดึงขอบกางเกงในของณรงค์ปลิ้นลงมาไว้ที่หน้าขา

“โอ้โห…เกือบเท่าแขนเราแนะ…ของผู้ชายมันเป็นอย่างนี้นี่เอง….ลองจับดูดีกว่าอารงค์คงยังไม่ตื่นหรอก….”

แพรวนึกในใจ แล้วเธอก็มือนิ่มๆของเธอค่อยๆแตะลงไป ลูบขึ้นลูบลงอย่างทะนุถนอม แต่พอโดนมือเธอ
มันกลับกระดกหงึกๆ สู้มือ เธอเลยกำมันเอาไว้ ส่วนอีกมือก็เขี่ยเล่นที่ปลายดุ้นซึ่งตอนนี้มีน้ำใสๆซึมออกมา
แล้ว ขณะที่แพรวกำลังสนุกกับดุ้นเอ็นของณรงค์อยู่นั้น เขาก็กำลังฝันว่ากำลังมีความสุขอยู่กับคนรักเมื่อ
ครั้งที่ยังเรียนหนังสืออยู่ ณรงค์ครางในลำคอเบาๆ มือเริ่มป่ายไปมาโดยที่แพรวไม่รู้เพราะมัวแต่จ้องอยู่กับ
ดุ้นเอ็น กว่าจะรู้ตัวก็เมื่อณรงค์ป่ายมือมาโดนมือเธอที่กำดุ้นเอ็นเขาไว้ แล้วณรงค์ก็คว้ามือจับหมับเข้าที่ข้อ
มือเธอแล้วดึงตัวเธอล้มทับลงไปบนตัวเขา ณรงค์ซุกไซ้จมูกไปที่ซอกคอของแพรวสาวน้อย ที่นอนตัวสั่น
ด้วยความตกใจ ณรงค์จูบ ไซ้ ไปมาทั้งๆที่ไม่ลืมตา ปากก็พึมพำเบาๆ

“พิมจ๋า…พิมจ๋า…พิมกลับมาหาพี่แล้ว…พิมจ๋า…”

แพรวได้ยินไม่ชัดนักเพราะอยู่ในอาการตกใจ แต่พอผ่านไปสักพัก มือที่ยันตัวขืนเอาไว้ก็เปลี่ยนมากอด
ณรงค์ แล้วซบหน้าลงไปบนอกเขา มือของณรงค์โลมไล้ไปทั่ว ไม่นานนักทั้งคู่ก็เปลือยกายไม่มีเสื้อผ้าติด
ตัวสักชิ้น ถึงตอนนี้ณรงค์ก็ทาบทับอยู่บนร่างแพรว ดุ้นเอ็นพาดอยู่บนเนินสวรรค์ที่หยาดเยิ้มไปด้วยน้ำเสียว
ณรงค์ทั้งดูด ทั้งเคล้น สองเต้าที่ตั้งกลมเด่น จนเจ้าของเนินร้องครางด้วยความเสียว

“อูยยย..ซี๊ดดด….อาขา…แพรว…แพรว..เสียว…อาว์…”

แพรวเอามือกุมหัวณรงค์กดลงไปหาเธอแล้วแอ่นอกเร่าๆ แพรวกำลังเสียวเพลินๆ ก็รู้สึกตึง แล้วเจ็บแปล๊บ
ที่ปากร่องสวรรค์
“ว๊าย…โอ๊ยยย….เจ็บ…อารงค์…แพรวเจ็บ…”

แพรวร้องลั่นถีบตัวขึ้นไปจนหัวชนกับหัวเตียง เสียงร้องของแพรวทำให้ณรงค์ลืมตาขึ้นมา สิ่งที่เห็นกลาย
เป็นแพรวเด็กสาวที่เขาอุปการะนอนน้ำตาไหลพราก โดยมีดุ้นควยของเขาเสียบคารูหีเธอเข้าไปค่อนลำ

“โอ๊ะ…แพรว…”

ณรงค์พูดออกมาได้เพียงเท่านั้น เพราะยังงงอยู่ ลำควยของเขาก็ยังคาอยู่

“แพรว…อาขอโทษ…นี่อาทำร้ายไปแล้วหรือ…แพรว…แพรว…อาขอโทษ…”

ณรงค์ฟุบร่างลงไปกอดแพรว

“แพรว…แพรวเองคะอา…ที่ทำผิดกับอา…อาไม่ผิดหรอกคะ… แพรวไม่ดีเอง..ที่ห้ามใจตัวเองไม่ได้…อาอย่าโทษตัวเองเลยนะคะ…”

ณรงค์รู้สึกแปลกใจกับคำพูดของแพรวมาก กำลังจะถามแต่แพรวก็สารภาพออกมาเสียก่อนว่าเธอแอบทำ
อะไรกับเขา ช่วงที่เขาหลับอยู่ ณรงค์จึงพอจะรู้ว่าลึกๆแล้วแพรวก็รักเขาเหมือนกับที่เขาก็แอบรักเธอ แต่ไม่
กล้าแสดงออกเพราะเดี๋ยวจะเด็กจะว่าเอา…ไอ้เฒ่าหัวงู… สิ่งที่เปิดเผยออกมาทำให้ณรงค์สบายใจขึ้น ลำควยที่กำลังจะอ่อนตัวลงก็กลับแข็งขึ้นมาเหมือนเดิม

“แพรว…นี่แพรวก็รักอาเหมือนนี่… อานึกว่าอารักแพรวข้างเดียวเสียอีก…เอ่อ…แล้วแพรวเจ็บมากมั๊ย…อาขอโทษนะ…อาไม่รู้ตัวจริงๆ…”

อารมณ์ที่ดีใจณรงค์กอดแพรวซะแน่น พลอยทำให้ควยเขากดลงตามไปด้วย แพรวถึงกับสะดุ้งยึก

“คะ..ค่ะ…แพรวรักอาคะ…อุ๊ย..แพรวเจ็บ…อาขา…อาได้แพรวแล้ว…อาอย่างทิ้งแพรวนะคะ..”

ต่างคนต่างกอดกันแน่น ด้วยความรัก แต่ณรงค์ยังไม่กล้ากดบั้นเอวลงไป ยังคงยกตูดโด่ง จมูกณรงค์เริ่มซุก
ไซ้ตามซอกคอ ร่องนม แล้วเลือนปากไปหาปากของแพรว แล้วค่อยๆเข้าหากันจนปากของทั้งสองคนแนบ
สนิท ณรงค์ดูดปากแพรวแล้วเริ่มสอดลิ้นเข้าไปในปากเธอ แพรวเองก็เผยอปากอ้ารับอย่างเต็มใจ ไม่นานนัก
เอวของสาวน้อยก็เริ่มส่ายไปมา เสียงครางฮือๆๆ อยู่ในลำคอ ณรงค์จึงค่อยๆกดลำควยของเขาลงไปอย่างช้าๆ
ค่อยๆให้มันลื่นไหลเข้าไป พอณรงค์เลื่อนปากลงไปดูดนมเด็กสาว

“อะ..อะ..อูยยย…อาขา…แพรวเสียว…อาขา…ซี๊ดดด…”

แพรวเอามือคล้องคอณรงค์ ปากก็ร้องครางด้วยความเสียวซ่าน

“อูยย….แพรวจ๋า…อาก็เสียว…หีแพรวเย็ดมันจังเลย…โอววว…เมียจ๋า…ผัวเสียวควยจังเลย…”

ทั้งคู่ปล่อยอารมณ์กันเต็มที่ แพรวเองเมื่อได้ยินณรงค์เรียกเธอว่า..เมียจ๋า…ทำให้หัวใจพองโต ปล่อยอารมณ์เต็มที่

“โอ้วว…ผัวขา…เย็ดเมียแรงๆเลย…เมียไม่เจ็บแล้ว….เมียเสียว…อูยยย…อาขา…อูยย…ผัวขา…แพรว…แพรว…ฉี่จะออก..อูย หยุดก่อน..แพรวฉี่จะออก…โอ้ววว..ออกแล้ว…ไม่ไหวแล้ว..ออกแล้ววว…ว๊ายย…”

แพรวร้องครางลั่น แพรวยิ่งร้อง ณรงค์ก็ยิ่งกระเด้าควยเย็ดแรงและเร็วขึ้น จนกระทั่งณรงค์โดนรูหีแพรวขมิบรัด ตอดอย่างแรง น้ำเชื้อที่อัดอั้นมานานก็กระฉูดออกมา มันมากและแรงจนแพรวร้อนผ่าวไปทั้งมดลูก และมีบาง
ส่วนไหลย้อนออกมาจากรูหีแพรวหยดย้อยลงไปบนที่นอนเป็นดวงๆ

“แพรวจ๋า…อามีความสุขที่สุดเลยจ๊ะ….แพรวมีความสุขมั๊ยจ๊ะ…”

ณรงค์กอดแพรว ออดอ้อนออเซาะ อย่างมีความสุข แพรวเอาหน้าซุกหน้าอกณรงค์ ตอบออกมาเบาๆด้วย
ความ อาย

“คะ…แพรวมีความสุขที่สุดในชีวิตเลยคะ.. เอ่อ…อารงค์คะ…ตอนที่อารงค์ยังไม่รู้สึกตัว…อารงค์ละเมอเรียกชื่อพิม…เธอเป็นใครคะ…”

ณรงค์นิ่งอึ้งไปแล้วก็ตัดสินใจเล่าให้แพรวฟัง ว่าพิมนั้นเป็นคนรักของเขาคนแรกตั้งแต่ตอนเรียนมัธยมปลาย
และแอบได้เสียกันตอนกำลังจะจบม.6 พอเข้าเรียนมหาลัยได้ไม่ถึงสองเดือนเธอก็หนีจากเขาไป ตั้งแต่นั้นมาเขายังไม่เจอเธออีกเลย และไม่เคยมีใครอีกเลยจนกระทั่งมาพบกับแพรว ณรงค์เห็นแพรวนอนนิ่งกลัวเธอ
จะคิดมาก ว่ารักพิมมากกว่าเธอ

“แพรว…ตอนนี้อามีแพรวแล้วนะจ๊ะ…ต่อไปอาจะไม่คิดถึงใครอีกแล้ว…แพรวอย่าคิดมากนะ…”

แพรวแหงนหน้าขึ้นมามองณรงค์แล้วบอกว่า

“แพรวไม่ได้คิดมากหรอกคะ… แต่ที่อาเล่ามาทำให้แพรวนึกถึงแม่ขึ้นมาคะ…แม่แพรวก็ชื่อพิม…แถมท้อง
แพรวตอนที่แม่แพรวกำลังเรียนมหาลัยปี1 เหมือนกันเลยคะ….”

ณรงค์ทะลึ่งพรวดลุกขึ้นมานั่งหน้าตาตื่น

“หา…จริงๆหรือแพรว….แม่แพรว….ชื่อพิมจริงๆหรือ..” ณรงค์ร้องถามเสียงดัง
“จริงๆคะ….อารงค์…ตกใจทำไมคะ….หรือว่า…”

แพรวพอนึกอะไรๆที่รับรู้มาจากแม่บ้าง จากณรงค์บ้าง เธอถึงกับ อ้าปากค้าง

“ที่แม่…หนีไปอยู่ที่โน่นจนคลอดแพรวออกมา…เพราะว่าท้องกับอารงค์….ถ้าอย่างนั้นอารงค์…ก็คือ…”

น้ำตาแพรวไหลพราก

“แพรว…แพรวลูกพ่อ…นี่พ่อทำอะไรลงไปนี่….พ่อขอโทษ…พ่อขอโทษ…”

สองพ่อลูกกอดกันน้ำตาไหลพราก ทั้งดีใจและเสียใจพร้อมๆกัน